เจ้าแมวดำตัวนี้เป็นแมวตัวที่ 3 และเป็นแมวที่อยู่กับผมมานานที่สุด ชีวิตก่อนหน้าที่จะมาอยู่กับผมนั้นน่าจะลำบากพอสมควรเพราะมีแต่คนบอกว่า เจ้าตัวนี้ท้องบ่อยมากและโดนคนนู้นไล่ตี โดนสาดน้ำไล่เพราะกลัวว่าจะไปคลอดในบ้านเขา รวมถึงความคิดของผมเองในตอนแรกก็คิดจะทำแบบนั้น แต่สุดท้ายก็รับเขามาเลี้ยงด้วยเหตุผลอะไรนั้นลองอ่านกันดูนะครับ
หลังจากที่ในบ้านมีเจ้า JohnJud กับเจ้า นัวเนีย ไม่นานเท่าไหร่นัก ก็มีแมวตัวสีดำท้องป่องๆ แอบวิ่งเข้าไปหลบอยู่บนฝ้าของบ้านเช่า เขาไปอยู่แบบนั้นโดยที่ไม่ยอมออกไปไหน ผมก็เอาอาหารน้ำวางล่อ หวังที่จะให้ออกมา แต่เขาก็ไม่ยอมออก จากล่อหลอกกลับเป็นถูกแมวหลอกกินข้าวกินน้ำฟรีในทุกวัน กลัวเขาจะเข้าไปตายในนั้นเลยทิ้งน้ำทิ้งอาหารไว้ แต่ตัวเขาเองไม่เคยขี้ บนฝ้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ก็ยังไม่อยากจะให้เขาอยู่ด้วยนัก ด้วยที่เขาเป็นแมวดำ จนมาวันนึงด้วยอารมณ์ หรือความบ้าบอที่อยู่ในตัวของผมเองจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้ ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ หน่วยนึง ว่ามีแมวแอบมาอยู่ใต้ฝ้า ช่วยเอาออกให้ที ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ก็มาถึง ได้เตรียมเชือกเหมือนที่จะจับงูมาจับแมว เขาหนีเข้าไปมุมสุดของฝ้าทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ยาก เขาจึงตัดสินใจใช้ยากันยุง ฉีดเข้าไปใต้ฝาเพื่อที่จะให้แมวออกมา บอกตามตรงว่าตกใจมาก แต่ก็ยังใจดำปล่อยให้เขาทำต่อไป จนแมวดำตัวนี้พยายามที่จะออกมา เจ้าหน้าที่ ได้จังหวะเอาเชือก ค้องคอแล้วดึงให้แน่นพอที่จะลากเอาออกมาได้ ไม่นานนักแมวดำตัวอ้วนก็ถูกจับลงกระสอบ เจ้าหน้าที่ถามว่าจะให้เอาไปทิ้งไหน จึงรีบบอกไปว่าเดียวเอาไปปล่อยเอง
แต่ความจริงแล้วเปล่าเลยรีบพาเขาไปหาหมอหลังจากที่เจ้าหน้าที่ไป หมอก็พาเขาเข้าห้องตรวจ ไม่นานนักหมอก็ออกมาบอกว่าเขาไม่น่าเป็นอะไรมาก แค่มึนอยู่เท่านั้นแต่ก็น่าจะต้องเอาเขาไปขังไว้เพื่อรอดูอาการต่างๆ ถ้าเขาไม่ดีขึ้นพรุ้งนี้เช้าค่อยพาเขากลับมาอีกที แต่ไม่หมดเท่านั้น หมอได้บอกว่าได้ฉีดยาบำรุงเพื่อให้ฟื้นตัวได้ดีขึ้น และจะจัดยาบำรุง สำหรับแมวท้องให้ไปด้วยนะเหมือนเขาจะท้องมาได้ซักพักและ ตอนที่ได้ยินรีบร้องฮะอะไรนะ เพราะก่อนหน้านี้ก็พึ่งเห็นเจ้าแมวตัวนี้ ไปท้องทิ้งไว้บ้านอื่นไม่ถึงเดือนเองมั้ง ก็เลยถามหมอว่ามันจะท้องเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ หมอตอบว่าลูกยังไม่ทันเลิกนม ก็สามารถติดสัดได้แล้ว ( นี่ยังไม่ทันได้รับเลี้ยงเลยนะกะจะเอาลูกมาอยู่ด้วยเลยหรือไง ) สุดท้ายก็เอาเขากลับมาขังกรงที่เคยขัง เจ้าจอร์น และดูอาการอยู่ 3-4 วันเขาไม่มีอาการกลัวอะไรดูเหมือนจะสบายใจด้วยซ้ำไปไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาตี แฟนจะเป็นคนคอยป้อนยาให้วิตตามินตลอด จนเข้าเริ่มคุ้นกับคนในบ้านพอหลังจาก4วันเขาก็นอนกลางบ้านได้อย่างสบายใจ มาอีกและแมวงอกแต่ไม่นานนักเขาก็ขึ้นไปคลอดบนฝ้า โดยที่เราไม่รู้เลยว่ามีชีวิตน้อยๆเกิดขึ้นในบ้านแล้ว
จนตกดึกในคื่นหนึ่ง ในขนาดที่หลับอยู่ก็ได้ยินเสียงแมวร้องเต็มไปหมดเป็นเสียงลูกแมว รีบออกไปดูเอาไฟฉายเข้าไปที่ใต้ฝ้า โหชัดเจนเจ้าแมวดำคลอดแล้ว เห็นแมวน้อย 5 ตัว แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าไปจับได้ และในรุ่งเช้าวันนั้นเอง เจ้าแมวดำได้หายไปเหลือเพียงแต่ลูกไว้ใต้ฝ้า ไอเราก็ตกใจแมวอะไรที่ไหนจะทิ้งลูก แต่ผ่านไปเกือบวัน ทนไม่ไหวกลัวลูกแมวตาย รีบปีนรื้อฝ้าออกนำลูกแมวออกมา ผบว่า1ใน 5ตัวน่าจะตายตั้งแต่แรกแล้ว ที่เหลืออีกสี่ตัว เป็นลูกแมวลายวัว 1 ตัว ลูกแมวออกสีน้ำตาล 1 ตัว และแมวดำอีก 2 ตัว รอจนถึงเวลาน่าจะ 2 ทุ่มแมวดำตัวนั้นก็ยังไม่กลับมา ไม่รู้จะทำยังไงรีบหิ้วลูกแมวทั้ง 4 ใส่กระเป๋าเป้ ขึ้นมอไซค์ไปหาหมอ หมอคงเบื่อหน้าไอบ้านี้มาแต่ละทีไม่เคยมาปกติเลย หมอถามคำแรกเลยวันนี้มีแมวมาเพิ่มอีกหรือเปล่า รีบบอกเลยครับมีครับอีก 4 ตัวเลยรอบนี้ เอาออกมาให้หมอดู พึ่งคลอดไม่กี่วันเอง เราก็รีบบอกว่าแม่แมวหายออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ายังไม่กลับมาเลย หมอพูดว่ามันน่าจะออกไปหากินอะไรเพื่อบำรุงเดียวก็กลับมาเองเพราะหมอยังไม่เคยเจอแม่แมวทิ้งลูกเลยนะนอกจากคน แต่ถ้าเขาไม่กลับมาก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุกับเขาก็เป็นได้
และในที่สุดในเช้าวันนั้นเองแม่แมวตัวดำก็กลับมา เราได้ตั้งชื่อให้ลูกเขาทั้ง 4 ตัว ว่า วัวมอ ให้เจ้าตัวที่ลายเหมือนวัว ซูโม่ เจ้าตัวน้ำตาล ที่ชอบทำท่าทางเหมือนซูโม่เล่นมวยปล้ำกับตัวอื่น เต๊าะแต๊ะ ให้กับแมวสีดำใส่ถุงเท้า4ขา ที่ชอบเดินตาม และหางยาวให้กับเจ้าแมวสีดำที่หางตรงยาวที่สุด เพราะใน4ตัว ทุกตัวจะมีหางหงิกบางม้วนบ้างมีแต่เจ้าหางยาวเท่านั้นที่หางตรงเป็นปกติ วันที่ต้องย้ายแมวกลับบ้านนั้น ทุกตัวขึ้นรถได้อย่างสงบมีแต้เจ้าแมวดำตัวแม่เท่านั้นที่หนีไปเข้าบ้านที่ไม่มีคนอยู่ แฟนผมจึงเอาลูกแมวตัวที่เสียงดีที่สุดและร้องง่ายที่สุดล่อมา เพื่อที่จะนำเขากลับมาบ้าน "เจ้าซูโม่" เสียง 8 หลอดในตอนนั้น ได้ทำหน้าที่อย่างไม่ตกหล่นบกพร่องเลยจริงๆ ด้วยเสียงร้องของเขาแค่ไม่นาน เจ้าแม่แมวตัวดำก็รีบเดินออกมาด้วยความหวงลูก เราจึงจับและพาเขามาอยู่บ้านสวนได้ กลับมาบ้านได้ไม่นานเขาก็ท้องโตอีกไม่รู้ไปท้องกลับใครที่ไหนมา รีบพาไปให้หมอแถวบ้านดู เสียค่าเอ็กซเรย์ไป ผลปรากฎว่าไม่ใช่ลูกแมวแต่เป็น ขี้ของเขานั้นเอง เขาอั้นขี้จนท้องป่อง จึงเป็นที่มาของชื่อเขา เพราะจะให้ชื่อว่าอั้นขี้คงจะไม่ดีนัก เลยตั้งชื่อว่า "กีกี้"
ถึงเขาจะสีดำแต่ความหน้ารักของเขาก็ไม่ได้แพ้แมวตัวอื่นเลย มีอยู่ครั้งหนึ่งเงินที่พ่อแม่ให้ไปกินตอนเรียนใกล้หมด เขาก็ดันมาป่วยมีเม็ดหนองขึ้นบนหัว พาไปหาหมอ หมอบอกว่าต้องผ่าออกถ้าให้ยาสลบจะต้องเสียตังหลายบาท ด้วยความขัดสนไม่อยากขอตังเพิ่ม ก็คิดอยู่ซักพักจนหมอบอกว่างั้นเอางี้จะลองผ่าสดดูถ้าเขาไม่ดิ้นก็จะไม่ต้องให้ยาสลบ หมอลงมือผ่าทันทีเจ้ากีกี่ไม่ร้องไม่ดิ้นนอนนิ่ง ผิดกับแมวตัวอื่นอย่างเจ้าจอร์นที่แค่ฉีดยาต้องมีคนจับถึง 4 คน หรือเขาอาจจะรู้ว่าคนเลี้ยงกำลังเป็นโรคทรัพย์จางก็เป็นไปได้ ตอนนี้เจ้ากีกี้เป้นแมวที่อยู่กับผมมานานที่สุด และมีรูปน้อยที่สุดเพราะเขาค่อยข้างที่จะถ่ายยากนิดนึง และในขณะที่ผมกำลังพิมพ์อยู่นี้เจ้ากีกี้ก็มานั่งนอนอยู่บนตักตลอดเลยด้วยครับ :)
สีดำก็มีค่าในในหมู่สี
แมวดำก็มีค่าในความเป็นแมวเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น